ที่มาของชื่อ "พระขุนแผน" ใคร...เป็นคนตั้ง

...ทำไมจึงเรียกพระเครื่องพิม์นี้ว่า "พระขุนแผน" ทำไมไม่เรียกว่า "พระขุนช้าง"

หรือพระอื่นๆที่มีชื่อต่างๆอีกมากมาย ทำไมจึงต้องมาเรียกหรือมาตั้งชื่อพระเครื่องพิมพ์นี้ว่า "พระขุนแผน" เรื่องนี้น่าคิด และน่าศึกษาจริงๆ

ผู้เขียนจึงอยากวิเคราะห์เอาไว้ ณ ที่ตรงนี้ด้วยเหตุผลว่า แต่เดิมพระพิมพ์นี้ไม่ได้ชื่อว่า "พระขุนแผน"อย่างแน่นอน เพราะ"พระขุนแผน"เป็นตัวละครสำคัญตัวหนึ่ง เป็นตัวเอกแห่งวรรณคดีไทยเราที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากเป็นที่รู้จักกันดี

กาลเวลาต่อมาไม่นาน มีผู้ประสบกับความสักดิ์สิทธิ์ความขลังของพระเครื่องพิมพ์บ้านกร่างมาบอก เล่าเก้าสิบกันถึงเรื่องเสน่ห์ มีพุทธคุณทางเมตตามหานิยมมีความขลังทางการเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การค้าขายดี มีจิตใจกันเอง แม้จะเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากันมาแต่ก่อนก็มีความเข้าใจกันดีขึ้นไม่โกรธ เกลียดกัน...

คราวนี้หันมาวิเคราะห์ถึงพระเครื่องที่มีชื่อว่า "พระขุนแผน" กันบ้าง การจัดสร้างพระเครื่องนี้ ผู้เขียนคิดว่าในครั้งเก่าก่อนนั้นเกจิอาจารย์จะต้องกำหนดชื่อเอาไว้อย่าง แน่นอน แล้วต้องเป็นชื่อที่ดี เหมาะสมและเป็นสิริมงคล แต่เราท่านในยุคสมัยนี้ไม่ทราบเพราะไม่มีหลักฐานปรากฏก็เลยมาตั้งชื่อเอาเอง ทีหลัง ตั้งเอาตอนได้มองเห็นองค์พระเครื่องเล็กๆนี้แล้วซึ่งในช่วงเวลานั้นก็ยังไม่ แน่นอนอะไร ก็เรียกกันไปว่า "พระพิมพ์บ้านกร่าง" หรือ "พระพิมพ์ซุ้มเรือนแก้วบ้านกร่าง" ว่ากันไปตามที่มองเห็นรูปลักษณ์ขององค์พระเครื่องพิมพ์นี้



อานุภาพแรงกล้า "เมตตามหานิยม"...

เพระพุทธคุณที่มีอยู่ในองค์พระเครื่องพิมพ์นี้จากบ้านกร่างหรือวัดบ้านกร่าง เป็นไปในทาง เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ ไม่มีใครเกลียด มีแต่ผูกไมตรีกับใครๆก็ได้นั่นเอง พูดจากับใครก็ได้ผลดี ค้าขายอะไรก็ง่าย คล่องตัวไปหมด "พระขุนแผน" เลยมีความหมายเป็นพระเครื่องที่มีพทธคุณทางเสน่ห์ มหาเสน่ห์ สิริมงคล เมตตามหานิยมชั้นสูงเป็นลำดับแรก ตามมาด้วยพุทธคุณอื่นๆอีก เป็นต้นว่าแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันชาตรี และอื่นๆในทางที่ดีงามทั้งหลาย อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดีเสมอ

แต่เรื่องเมตตามหานิยม เสน่ห์ ที่มีอยู่นั้นดูเหมือนสร้างความตื่นเต้นให้กับบรรดาหนุ่มๆและไม่หนุ่มทั้ง หลายกันมาก พูดกันไม่รู้จักหยุดหย่อน ใครๆในวงการพระเครื่องมองเห็นพระเครื่องแบบพิมพ์นี้จากวัดบ้านกร่าง เมืองสุพรรณบุรี แล้วก็นึกถึงเรื่องนี้ก่อนทันที

"พระขุนแผนบ้านกร่าง" ชื่อเลยติดริมฝีปากกันมากระทั่งบัดนี้ทุกวันนี้

เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของพระเครื่องพิมพ์คล้ายๆกัน มีพุทธคุณที่เป็นแบบเดียวกัน เลยกลายเป็น "พระขุนแผนไข่ผ่าซีก" และ "พระขุนแผนเคลือบ" กันไป รวมพระขุนแผนอื่นๆอีก

นี่แหละ"พระขุนแผน" พระเครื่องที่มากด้วยพุทธคุณทางเมตามหานิยม การผูกมิตรไมตรีจากผู้คน ไม่ว่าสตรี หรือบุรุษเพศก็ตาม...



คำถามยอดฮิต???? ห้อย "พระขุนแผน" แล้วจะทำให้มีเสน่ห์ แต่ยากจน จริงหรือ???



ตอบ- ขอตอบว่าไม่จริง นั่นเป็นความเชื่อเก่าๆที่ว่า ถ้าเราบูชาหรือห้อยพระขุนแผนแล้ว จะมีเสน่ห์เป็นที่ดึงดูดใจผู้อื่น และคนรอบข้าง เจรจากับใครเป็นที่รักใคร่น่าเอ็นดูของคนหมู่มาก แต่ห้อยพระขุนแผนแล้วจะทำให้ฐานะยากจน เงินทองหดหาย เหมือนกับจะบอกว่า มีเสน่ห์แต่ยากจนเงินทอง

ตรงกันข้าม มีหลักฐานปรากฏให้เห็นกันอย่างมากมาย ทั้งมหาเศรษฐีชั้นนำของเมืองไทย พ่อค้า คหบดีตระกูลดัง นักการเมือง ดารานักแสดง นักร้องชื่อดังในเมืองไทย แม้กระทั่งนักแสดงชั้นนำของฮอลลีวู้ด (ริชาร์ด เกียร์ (ผู้ตั้งกระทู้)) ก็ยังนิยมห้อยพระขุนแผน ซึ่งเท่าที่ดูก็ไม่เห็นพวกเขาเหล่านั้นจะจนลงแต่อย่างใด มีแต่จะเรียกเงิน เรียกทองเข้ามาเสียมากกว่า



พทธคุณของพระขุนแผนทุกพิมพ์จากเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทุกกรุนั้น มีพลังเมตตามหานิยมสูงส่งอยู่ทั้งสิ้น ทั้งร่ำรวยเสน่ห์ และร่ำรวยทรัพย์สิน เพราะพลังพุทธคุณของพระขุนแผนจะเรียกทรัพย์ เรียกเงิน เรียกทอง หากผู้บูชานั้นปฏิบัติให้ถูกทาง ถูกวิธี หมั่นทำความดีสะสมเอาไว้มากๆ พระก็จะมีพลังเข้มขลังอยู่เสมอ

ขอเพียงแต่อย่าลืมปลุกพลังพระก่อนห้อยคอทุกครั้งเท่านั้น รับรองว่า...ทั้งรวยเงินทอง รวยวาสนา และรวยเสน่ห์สุดๆ แน่นอน...ขอบอก



พระคาถาที่เพิ่มพลังความขลัง และความศักดิ์สิทธิ์แก่พระตระกูลขุนแผนต่าง...



นะ เมตตา จะ มะหาราชา

อะ เมตตา จะ มะหาราชา

อุ เมตตา จะ มะหาราชา

สัพพะ สิเนหา จะ ปูชิตา

สัพพะทุกขัง จะ มหาลาภัง

ราชาโกรธัง วินาสสันติ

ชะนาโกธัง วินาสสันติ

สัพพะโกธัง วินาสสันติฯ



นะราชานัง เมตตาจิตตัง

ทุสะนิมิ โมเทวีนัง

เมตตาจิตตัง ทุสะมะนิ

พุทปะริสายัง เมตตาจิตตัง

ทุสะมะนิ ธาอิตถีนัง

เมตตาจิตตัง ยะสัตตานัง

เมตตาจิตตัง ทุสะมะนิฯ



นะชื่น โมชม

พุทนิยม มหานิยม

ธาชมชื่น ยะชูใจ

พุทธังเมตตา ธัมมังเมตตา

สังฆังเมตตา กะกาโร

กะกุสันโธ มะหิทถโก

มหิทธิโส สะหัสสะเนตโต

ทัพพะจักขุง วิโสธายะ

โมการโร โกนาคะนะโมพุทโธ

มะหิทธิโก มะหิทธิโส

สะหัสสะเนตโต ทพิพพะจักขุง

วิโสธายะ ธากำโร

โคตะโม พุทโธ

มหิทธิโก มหิทธิโส

สะทัสสะเนตโต ทิพจักขุง วิโสธายะฯ



นะหน้ากูงาม คือดั่งพระนารายณ์

โมโฉมฉาย กูงามดั่งท้าวตรีเนตร

พุทเกษกูงาม ดั่งเทพอัปสร

ธากรกูงาม คือดั่งพระอิศวร

ยะเป็นที่รักแก่คนทั้งหลาย

พทธานุสสติ เมตตาอย่าวาย

กรุณาอย่าคลาย จิตตะมุทิตา

ให้มาเป็นมิตร อุเบกขา ให้สูญหาย

ธัมมานุสสติ เมตตาอย่าวาย

กรุณาอย่าคลาย จิตตะมุทิตา ให้มาเป็นมิตร

อุเบกขาให้สูญหาย

สังฆานุสสติ เมตตาอย่าวาย

กรุณาอย่าคลาย จิตตะมุทิตา ให้มาเป็นมิตร

อุเบกขา ให้สูญหายฯ

พุทโธ จับจิต ธัมโม จับใจ สังโฆ รักใคร่

พุทโธ มามา ธัมโม มามา สังโฆ มามา

นะเมตตา โมเห็นหน้ารักสนิท

พุทธจับจิต ธามิให้จำกัด

ยะกระหวัดจิต...(เอ่ยชื่อตัวเราเองให้ชัดเจน) รักอย่าละ ชีวิตัง

ยาวะนิพพานัง สะระนัง คัจฉามิฯ

อิตถีชาโต โมเม

อะหัง นามามิ

อิตถี จิตตัง

ปิยังมะมะ เนตตัสสะ

อิตถีนัง ปิยังมะมะฯ



พุทธัง เมตตา ชะนาจิตตัง มะบุญญัง

ธัมมัง เมตตา ชะนาจิตตัง มะบุญญัง

สังฆัง เมตตา ชะนาจิตตัง มะบุญญังฯ

อิติบูชา จะมหาราชา สัพพะเสน่หา อะระหังสัมมา

สัมพุทโธมามา ยาตรายามดี วันชัยมารศรี สวีสดีลาโภ นะโม พุทธายะ

นะมามีมา มะหาลาภา อิติพุทธัสสะ สุวัณณังวา ระชะตังวา มะณีวา ธะนังวา

พิชังวา อัตถังวา ปัตถังวา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อิติมีมา นะมามิหัง

นิจจัง กาลัง ปิยัง โหติ เทวะตาปิ นิปัตเตยยัง มะหาเตชัง มะหาตะปัง

พะเล เนเน เดเช ชะยะตุ ชะยะมังคะลังฯ

พระขุนแผน มหาลาภา มหาเมตตา สัมปะติจฉามิ



แล้วบริกรรมคำว่า "ขุนแผนมานัง ติสังมาโส " สามครั้ง แล้วเป่าไปที่พระสามครั้ง แล้วกราบสามครั้ง ก่อนที่จะเอาสร้อยพระห้อยแขวนคอบูชา อย่าลืมว่าคาถากำกับเพื่อใส่ประจุพลังดังนี้ก่อนทุกครั้งว่า

พุทธัง อาราธนัง ธัมมัง อาราธนัง สังฆัง อาราธนัง

พุทธัง ประสิทธิ เม ธัมมัง ประสิทธิ เม สังฆัง ประสิทธิ เม

แล้วเป่าไปที่องค์พระอีกสามครั้ง จากนั้นขึ้นห้อยคอได้ รับรองว่าพลังพุทธคุณในองค์พระขุนแผนของท่านจะมีพลังเต็มร้อย สูงส่งน่าอัศจรรย์ใจเลยทีเดียว....

คาถาค่อนข้างยาวนิดนึงนะครับ เอาไว้ท่องเวลาเข้าหาเจ้านาย หรือตอนสอบสัมภาษย์นะครับ ถ้าไม่มีเวลาท่องทุกวันก็เอาไว้ท่องตอนที่จำเป็น







โก้แม่กลองคัดลอกมาจาก

จากคุณ deny

www.luangputim.com

Link: คลิ๊กที่นี่